Table of Contents
เด็ก Gen Alpha คือเด็กที่เกิดระหว่างปี 2010 ถึง 2025 เป็นเด็กยุคใหม่ที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและโลกดิจิทัลที่มีผลต่อพัฒนาการและการใช้ชีวิตประจำวัน ในการออกแบบภายในบ้านหรือที่อยู่อาศัยสำหรับเด็ก Gen Alpha จึงต้องคำนึงถึงความชอบและพฤติกรรม ซึ่งเด็กมีความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว รู้เท่าทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดนอกกรอบ ชอบในความทันสมัย แปลกใหม่ และนึกถึงสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา ในการวางแผนออกแบบตกแต่งบ้านสำหรับเด็กยุคนี้ ผู้ปกครองจึงต้องให้ความสำคัญและใส่ใจกับการออกแบบพื้นที่สำหรับเด็ก เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กได้
ผู้ปกครองของเด็ก Gen Alpha จะอยู่ในช่วง Gen x (เกิดระหว่างปี 2508-2522) และ Gen y (เกิดระหว่างปี 2523-2540) ซึ่งทั้ง 2 Gen นี้มีความแตกต่างกันทั้งในด้านความชอบและไลฟ์สไตล์ส่วนตัว โดย Gen x จะชอบความสะดวกสบาย เน้นออกแบบตกแต่งภายในที่ดูเรียบง่ายแต่ตอบโจทย์กับการใช้งาน ส่วน Gen y จะเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังคงความสะดวกสบายไว้ โดยมีเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวก
ในการออกแบบตกแต่งภายในสำหรับเด็ก Gen Alpha นั้น เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองทั้ง 2 Gen ต้องทำความเข้าใจ และไม่ยึดความชอบหรือไลฟ์สไตล์ตัวเองเป็นหลักในการตัดสินใจตกแต่งบ้าน การทำความเข้าใจและเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ แสดงความเป็นตัวของตัวเองออกมาถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเด็กต้องอาศัยอยู่ในบ้าน และพบเจอกับสภาพแวดล้อมแบบเดิมในทุกๆวัน เพื่อให้เด็กได้มีพัฒนาการที่ดี รู้จักการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การปรับตัวและเรียนรู้ความชอบ ไลฟ์สไตล์ไปพร้อมๆ กันระหว่างเด็กและผู้ปกครอง มีสิ่งที่ควรทำดังนี้
1. ความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
ความปลอดภัยและการยืดหยุ่นในการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบบ้านหรือห้องสำหรับเด็ก Gen Alpha ซึ่งต้องพิจารณาความปลอดภัยในทุกๆ ด้านของการใช้งาน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาคคิดขึ้น โดยเฉพาะเด็กในยุคนี้ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมักต้องการพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการและความสนใจได้ การเลือกวัสดุและเฟอร์นิเจอร์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวหรือเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน ทั้งยังสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองได้ เช่น
- ห้องนอน เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับเด็ก มีความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งราวกันตกที่เตียงนอน เพื่อป้องกันการตก มีการยืดหยุนในพื้นที่ สามารถปรับเปลี่ยนให้ใช้พื้นที่ได้ง่าย เลือกเฟอร์นิเจอร์แบบโมดูลาร์ที่ขยับปรับเปลี่ยนเพิ่มพื้นที่ว่าง หรือมีผนังที่สามารถเขียนและลบออกง่าย
- ห้องนั่งเล่น ควรแบ่งโซนให้ชัดเจน เพื่อรองรับในหลายๆ กิจกรรม เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อเด็ก ปลอดภัยจากสารเคมี เฟอร์นิเจอร์มีขอบมน ไม่มีเหลี่ยมคม มั่นคง ไม่ล้มง่าย ควรยึดเฟอร์นิเจอร์กับผนังเพื่อป้องกันการล้ม
ห้องน้ำ ติดตั้งคิ้วเก็บมุมกระเบื้องเพื่อเพิ่มความปลอดภัย เลือกใช้วัสดุปูพื้นกันลื่น และติดตั้งราวจับ เพื่อป้องกันการล้ม
2. เลือกใช้เทคโนโลยีและวัสดุที่ตอบโจทย์
เทคโนโลยีภายในบ้านหรือ Smart Home เป็นสิ่งที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในการอำนวยความสะดวกภายในบ้าน โดย Smart Home คืออุปกรณ์และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงกัน ช่วยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งมีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน เช่น การปรับเปลี่ยนแสงไฟและความสว่าง การเปิด-ปิดม่าน การปรับอุณหภูมิห้อง รวมถึงการฟอกอากาศกรองฝุ่น PM 2.5 ในแง่ของเทคโนโลยีด้านการเรียนรู้ ปัจจุบันมีการผลิตแว่น VR หรือ Virtual Reality คืออุปกรณ์ที่สวมศีรษะเพื่อนำผู้ใช้เข้าสู่โลกเสมือนจริงที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ สามารถนำเสนอเนื้อหาการเรียนรู้ในรูปแบบที่น่าสนใจและมีชีวิตชีวา ทำให้เด็ก ๆ สนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น ช่วยเสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น
การเลือกใช้วัสดุภายในบ้าน ควรเลือกโดยเน้นสิ่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยสำหรับเด็ก เลือกใช้วัสดุที่ลบเหลี่ยมมุมที่คม เพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายจากการชนหรือสัมผัสของเด็ก
พื้น ใช้ลามิเนตที่ทนต่อรอยขีดข่วน ไม่เกิดคราบทำความสะอาดง่าย หรือพื้นยางกันลื่น ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม
ผนัง เลือกใช้สีที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมี และมีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อรา หรือใช้วอลล์เปเปอร์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
เฟอร์นิเจอร์ เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความปลอดภัย ขนาดและสัดส่วนให้เหมาะสมกับการใช้งานของเด็ก ไม่มีมุมคม น้ำหนักเบา วัสดุมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทำความสะอาดง่าย
3. สีสันและแสงสว่าง
การเลือกสีสันและการจัดแสงในพื้นที่สำหรับเด็กเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถส่งผลต่ออารมณ์ การพัฒนา และการเรียนรู้ การใช้สีและแสงที่เหมาะสมนั้น สามารถช่วยสร้างบรรยากาศที่สนุกสนาน สงบ หรือแม้กระทั่งกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้
สีสดใสและกระตุ้นพลัง
สีสดใส เช่น ฟ้าอ่อน, เหลือง, หรือเขียว จะช่วยกระตุ้นพลังและทำให้เด็กรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับห้องเล่นหรือห้องกิจกรรมที่ต้องการให้เด็กมีพลัง
สีชมพูหรือส้ม สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและกระตุ้นให้เด็กมีความสุขและรู้สึกสนุกสนาน
สีสดใสและกระตุ้นพลัง
สีฟ้าอ่อนหรือสีเขียวมินต์ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับห้องนอนของเด็กหรือพื้นที่ที่ต้องการให้เด็กรู้สึกสงบและพร้อมสำหรับการนอนหลับ
สีเทาอ่อนหรือเบจ ช่วยให้ห้องดูนุ่มนวลและสบายตา ไม่ทำให้รู้สึกตึงเครียด
ธีมตามความชอบของเด็ก
การใช้สีตามธีมที่เด็กชื่นชอบ เช่น การใช้สีที่เกี่ยวกับสัตว์, ตัวการ์ตูน หรือธีมธรรมชาติ (เช่น ฟ้า, เขียว, และขาว) จะช่วยให้เด็กสามารถรู้สึกเชื่อมโยงกับพื้นที่นั้นๆ ได้ดีขึ้น
ในการจัดแสง ควรให้ความสำคัญกับการใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะแสงธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นวิตามิน D และส่งเสริมการพัฒนาของเด็กได้ ส่วนแสงไฟหลัก เลือกใช้โคมไฟเพดานหรือไฟหลอด LED เพื่อให้แสงสว่างทั่วถึงในห้อง ควรเลือกหลอดไฟที่มีอุณหภูมิสีเย็น (ประมาณ 4000K) สำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมหรือการเรียนรู้ ในเวลากลางคืน ใช้ไฟที่มีแสงสลัวๆ ที่มีการปรับความสว่างได้ เพื่อให้เด็กไม่รู้สึกกลัวในตอนกลางคืนและสามารถเคลื่อนที่ไปในห้องได้โดยไม่ต้องเปิดไฟหลัก
4. สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้น่าสนใจ
การออกแบบตกแต่งภายในเพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้เข้ากับเด็กเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจในรายละเอียดและความต้องการของเด็กในแต่ละช่วงวัย เพื่อให้มีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตและพัฒนาการ เด็กต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการเล่น การเรียนรู้ และการพักผ่อน ควรจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรม เช่น พื้นที่สำหรับเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย พื้นที่สำหรับอ่านหนังสือหรือทำงานศิลปะ หรือพื้นที่สำหรับพักผ่อนและผ่อนคลาย ภายในห้องตกแต่งด้วยของเล่นและสิ่งที่ชอบ เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
5. การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในกับภายนอก
การตกแต่งบ้านให้เข้ากับเด็ก Gen Alpha ควรออกแบบตกแต่งให้พื้นที่ทั้งภายในและภายนอกบ้านมีความเชื่อมต่อกัน เพื่อสร้างความต่อเนื่องระหว่างกัน เช่น สวน ระเบียง ทำให้บ้านดูกว้าง โปร่ง โล่ง และน่าอยู่มากขึ้น ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็ก Gen Alpha ทำให้เกิดการเชื่อมโยงและใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้รับแสงสว่างและลมจากภายนอกอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ การออกแบบตกแต่งภายในสำหรับเด็ก Gen Alpha ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของเด็กด้วย โดยผู้ปกครองต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และการเสริมสร้างพัฒนาการควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เข้ากับเด็ก ในด้านการตกแต่งบ้านเน้นการสร้างบรรยากาศโดยเลือกใช้โทนสีและวัสดุตกแต่งให้เหมาะสมกับช่วงวัย บริษัทแอค เซส เซอรี่ จำกัด รับให้คำปรึกษาและตกแต่งภายในอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบ้านสำหรับวัยเด็ก วัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน หรือบ้านสำหรับครอบครัวใหญ่ เราก็พร้อมให้คำปรึกษา โดยทีมงานมืออาชีพ เพื่อให้บ้านได้เป็นในแบบที่คุณต้องการ