ถ้าพูดถึงเฟอร์นิเจอร์แล้ว การมีน้อยคือมาก(less is more) ลองดูว่าคุณมีอะไรอยู่บ้างแล้วแบ่งเป็น 3 ประเภท: สิ่งที่จำเป็น, สิ่งที่สำคัญ, และสิ่งที่คุณไม่มีก็ได้ หลังจากนั้น ทิ้งเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในสิ่งที่คุณไม่มีก็ได้ออกให้หมด

‍เพิ่มแสงสว่างให้เพียงพอ

แสงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการออกแบบ อย่าบดบังแสงธรรมชาติด้วยผ้าม่านหรือสิ่งของต่างๆ รับแสงธรรมชาติด้วยการตั้งกระจกเข้าหาแสงธรรมชาติโดยตรงเพื่อให้แสงกระจายไปรอบๆ ห้องได้

‍อย่าแขวนไฟติดเพตานต่ำหรือสูงจนเกินไป
‍สำหรับเพดานที่สูง 8 ฟุต ลองแขวนโคมระย้าให้ห่างจากโต๊ะ 30-34 นิ้ว สำหรับฟุตต่อไปที่เพิ่มขึ้นมา ให้เว้นระยะห่างมากขึ้น 3 นิ้ว เช่น ถ้าเพดานสูง 9 นิ้ว ก็ให้เว้นระยะห่างประมาณ 33-37 นิ้ว หลีกเลี่ยงการใช้โคมระย้าที่มีความกว้างมากกว่าโต๊ะของคุณ โคมไฟควรกว้างน้อยกว่าโต๊ะประมาณหนึ่งฟุต

‍อย่าให้เฟอร์นิเจอร์ชิดติดผนัง
‍นี่อาจจะเป็นข้อผิดพลาดที่คนส่วนใหญ่ทำกันมากที่สุด สิ่งที่คุณต้องทำคือวางเฟอร์นิเจอร์เข้าหากัน ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นสามารถเดินไปรอบๆ หรือระหว่างเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย

‍อย่าเลือกเฟอร์นิเจอร์ก่อนที่จะเลือกสีทาผนัง
‍เลือกสีทาก่อนที่จะเลือกเฟอร์นิเจอร์ การที่คุณเลือกเฟอร์นิเจอร์ก่อนที่จะเลือกสีทาผนังนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากกว่ามากในการหาเฟอร์นิเจอร์ที่จะเข้ากันกับผนังของคุณ

‍อย่าคิดว่าพรมไม่สำคัญ

พรมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมเฟอร์นิเจอร์ในห้อง แต่พยายามหลีกเลี่ยงการวางขาทั้งหมดบนพรมหรือไม่วางขาบนพรมเลย ตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือการวางขาหน้าบนพรม แต่ขาหลังอยู่นอกพรม

‍อย่าใช้วอลเปเปอร์ที่ดูรกจนเกินไป

ถ้าวอลเปเปอร์ดูรกเกินไป ไม่ว่ามันจะสว่างหรือมืดไปก็ตาม อาจจะดึงดูดความสนใจจากสิ่งอื่นๆ ภายในห้องและสร้างความรู้สึกที่ไม่ดีให้กับแขก

‍อย่าปล่อยให้ห้องของคุณไม่มีจุดโฟกัส
‍หาสิ่งที่คุณอยากให้คนสนใจเมื่อพวกเขาเข้ามาในห้อง อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม ลองเริ่มจากสิ่งนั้นแล้วค่อยออกแบบต่อ

‍อย่าให้ความสำคัญกับห้องนั่งเล่นมากเกินไป
‍ห้องครัว, ห้องนอน. หรือแม้แต่ตู้เสื้อผ้าจะขาดความน่าสนใจไปถ้าโฟกัสทั้งหมดอยู่ที่ห้องนั่งเล่นห้องเดียว คุณควรที่จะออกแบบในทุกๆ ส่วนของบ้าน แทนที่จะออกแบบห้องเดียว

‍อย่าลืมนึกถึงห้องเล็ก
‍การวางแผนห้องทำงานเล็กๆ ก็สำคัญพอๆกันห้องนั่งเล่น ดังนั้น โปรดวางให้ความสำคัญในการออกแบบทุกห้องอย่างเท่าเทียมกัน

‍อย่ารวมบริเวณด้านในและด้านนอกบ้านเข้าด้วยกัน

ไม่มีอะไรที่ขัดอารมณ์ได้เท่ากับการมองเห็นหมู่บ้านชนบทจากห้องคอนโดที่ทันสมัย ลองปรับใช้หน้าต่างหรือระเบียงเพื่อให้เข้ากับสไตล์มากขึ้น

‍อย่าละเลยความสำคัญของการตั้งงบประมาณ
‍อย่าซื้อในสิ่งที่แพงเกินตัว ลองตั้งงบประมาณไว้แล้วยึดสิ่งนั้นเป็นหลัก พื้นที่ๆจัดวางดีนั้นเกิดจากการสร้างเพิ่มไปเรื่อยๆ ดังนั้น มันคงจะดีกว่าที่เราจะทำทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป
‍
‍อย่าซื้ออะไรก็ตามโดยที่ไม่ได้วางแผน
‍แม้ว่าการช็อปปิ้งนั้นจะสนุกแค่ไหน แต่คุณอาจจะน้ำตาตกได้เมื่อถึงบ้านแล้วรู้ว่าสิ่งที่คุณซื้อมานั้นไม่เข้ากับส่วนไหนของห้องเลย เมื่อไปช็อปปิ้ง โปรดคำนึงถึงสีและสไตล์ของห้องไว้

‍ไม่มีความหลากหลาย
‍อย่าซื้อของทั้งหมดจากร้านเดียว พื้นที่ๆ ตกแต่งอย่างดีแล้วนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์และมิติ ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าทุกอย่างดูเหมือนๆ กันไปหมด

‍อย่าหยุดที่วิธีการแก้ปัญหาเดิมๆ

ถ้าคุณกำลังจะเปลี่ยนแปลงภายในอพาร์ทเมนต์ นั่นคงจะหมายความว่าคุณอยากที่จะให้ห้องดูทันสมัยขึ้น การทำให้ห้องครัวเปิดกว้างเชื่อมกับห้องนั่งเล่นจะเพิ่มพื้นที่อย่างมาก และทำให้ดูมีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

‍อย่าคิดว่าอะไรที่เรียบง่ายนั้นคือความน่าเบื่อ
‍การปรับใช้สไตล์แบบเรียบง่ายแสดงให้เห็นว่าคุณมีความรู้ในด้านนี้ สีขาว, สีดำ, และสีเทานั้นบ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของคุณ และช่วยให้คุณผ่อนคลายเนื่องจากไม่มีอะไรที่ทำให้รกสายตา

‍อย่าฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญแค่คนเดียว
‍ลองถามความเห็นจากผู้อื่นว่าเขาคิดอย่างไร หลังจากที่คุณพบผู้เชี่ยวชาญที่เข้ากับสไตล์ของคุณแล้ว คุณค่อยเลือกเขา มันคงไม่ผิดอะไรใช่ไหมล่ะที่เรามีหลายตัวเลือกรองรับไว้ก่อน

‍อย่าเริ่มถ้ายังไม่ได้ตั้งระดับความสำคัญ
‍การปรับปรุงห้องนั้นใช้เวลา และการตั้งระดับความสำคัญเป็นหัวใจสำคัญ ถ้าคุณวางแผนที่จะปรับปรุงบ้านทั้งหลังของคุณ ค่อยๆ เริ่มทำทีละห้องไป ถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดไป ก็จะมีแค่ห้องเดียวที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่บ้านทั้งหลัง​

‍ที่มา:
‍https://freshome.com/2013/09/07/10-of-the-most-common-interior-design-mistakes-to-avoid https://www.homify.com.my/ideabooks/1455650/12-mistakes-you-make-when-setting-up-your-home https://www.stylemepretty.com/living/2018/08/07/3-common-interior-design-mistakes-you-might-be-making

03-04-accessories_co_th-extramix