ปี 2025 นับเป็นปีที่น่าจับตามองสำหรับวงการรับตกแต่งภายใน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดและความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น เทรนด์การตกแต่งภายในกำลังมุ่งสู่ความยั่งยืนและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น พร้อมผสมผสานความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างลงตัว มาดูกันว่าเทรนด์เด่นๆ ที่จะมาแรงในปี 2025 มีอะไรบ้าง
การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ หรือในกรุงเทพ เป็นสิ่งที่ทุกคนมักรู้สึกว่าแออัด วุ่นวาย และเต็มไปด้วยมลพิษการเชื่อมต่อกับธรรมชาติไม่มากก็น้อย จึงเป็นสิ่งที่ผู้คนล้วนต้องการ อย่างการนำวัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ไผ่ หิน หรือผ้าลินิน มาใช้ตกแต่ง การออกแบบแสงจากธรรมชาติให้เข้าถึงได้มากที่สุด จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผ่อนคลาย ช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบายตา และยังช่วยประหยัดพลังงานให้กับบ้านได้อีกด้วย และนอกจากบ้านแล้ว ยังมีห้องพักหรือคอนโด ที่เราสามารถออกแบบตกแต่งคอนโด ให้ดูโปร่งสบายและน่าอยู่ได้ด้วยการจัดพื้นที่ขนาดเล็กภายในคอนโดให้เป็นสวนหรือทำชั้นวางกระถางต้นไม้ไว้ที่ระเบียง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาตกแต่ง ก็จะช่วยให้ภายในคอนโดดูผ่อนคลาย โล่ง และสบายตาได้อีกด้วย
ทุกวันนี้ บริษัทรับตกแต่งภายใน เริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้กับการตกแต่งภายในแล้ว ไม่ว่าจะเป็นออกแบบตกแต่งบ้าน หรือออกแบบตกแต่งคอนโด การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตกแต่งภายใน จะช่วยให้บ้านของเรามีความทันสมัยและมีความอัจฉริยะมากขึ้น ด้วยการนำเครื่องใช้ไฟฟ้า Smart Home เข้ามามีบทบาทภายในบ้านโดยการใช้ควบคุมระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้งด้านแสงสว่าง อุณหภูมิ ระบบเสียง ระบบความปลอดภัย หรือระบบแจ้งเตือนต่างๆ ภายในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน
สีเอิร์ธโทน สีธรรมชาติ เช่น สีเขียวมะกอก สีน้ำตาลดิน และสีเทาอมฟ้า จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำเสนอในเฉดสีที่เข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย
สีพาสเทล โทนสีหวาน เช่น สีชมพูอ่อน สีฟ้าละมุน และสีเหลืองอ่อน กำลังจะกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แต่มาในรูปแบบที่สดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
สีคู่ตรงข้าม การนำสีคู่ตรงข้ามมาใช้ร่วมกัน เช่น สีฟ้าและสีส้ม สีม่วงและสีเหลือง จะสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจให้กับภายในบ้านได้
วัสดุรีไซเคิล และวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จะเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการออกแบบที่คำนึงถึงพลังงาน ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หรือการใช้ฉนวนกันความร้อน เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน
ออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายใน ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามต้องการ หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่และซ่อมแซมได้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานพื้นที่
พื้นที่ทำงานในบ้าน การออกแบบห้องทำงานหรือพื้นที่ทำงานให้แยกจากพื้นที่พักผ่อน เนื่องจากการทำงานในบ้านกลายเป็นเรื่องปกติในยุคปัจจุบัน การมีพื้นที่ทำงานในบ้านที่ถูกออกแบบมาอย่างดี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างความสุขในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น
พื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการ การออกแบบพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ห้องออกกำลังกาย ห้องโยคะ หรือห้องดนตรี เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน
การใช้สีและแสง ออกแบบให้แสงธรรมชาติส่องถึงภายในห้องและเลือกใช้สีที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เทรนด์การออกแบบภายในในปี 2025 มุ่งเน้นไปที่การผสมผสานธรรมชาติให้เข้ากับบ้าน การเลือกใช้เทคโนโลยีในการอำนวยความสะดวก การเลือกใช้วัสดุและสีสันที่เป็นธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน รวมถึงความเป็นส่วนตัว จะเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในอนาคต ในการเลือกบริษัทรับตกแต่งภายในหรือบริษัท Interior design จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญมาก ควรเลือกบริษัทรับตกแต่งภายใน ที่รับออกแบบ 3D ตกแต่งภายในหรือรับทำภาพ 3D ตกแต่งภายในด้วย เพื่อให้เรามองเห็นภาพจริง ก่อนที่จะลงมือตกแต่งภายในได้